สถิติ
เปิดเมื่อ15/02/2012
อัพเดท19/06/2012
ผู้เข้าชม10654
แสดงหน้า12295
ปฎิทิน
April 2025
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
  
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
   
สินค้าขายดี




คลอโรฟิลล์

เข้าชม 158 | ตอบ 0
 
คลอโรฟิลล์
 
  • ราคาปกติ : 900.00 ฿
  • ราคาพิเศษ : 850.00 ฿
  • รหัสสินค้า : 550004
  • ยี่ห้อ : Starsunshine
  • จากการวิเคราะห์คลอโรฟิลล์จากพืชกว่า 6,000 ชนิด  ทั้งจากใต้น้ำถึงบนพื้นดิน  พบว่า พืชที่ให้คลอโรฟิลล์บริสุทธิ์และดีที่สุด  คือ อัลฟาฟ่า เท่านั้น   
                 
                   อัลฟาฟ่า  จัดเป็นพืชจำพวกที่มีฝัก (Legumes) หรือพืชตระกูลถั่ว ใบเลี้ยงคู่และมีระบบรากที่มหัศจรรย์มาก  ในบางพื้นที่ระบบรากของอัลฟาฟ่าสามารถชอนไชลงไปในดินถึงกว่า 130 ฟุต จึงทำให้สามารถหาอาหารได้มีประสิทธิภาพมากกว่าพืชชนิดอื่น ๆ อีกทั้งระบบการป้องกันตัวเอง หรือป้องกันสารพิษในเซลล์ของพืชอัลฟาฟ่าก็ดีกว่าพืชชนิดต่าง ๆ   ชาวอาหรับโบราณรู้จักใช้ประโยชน์จากอัลฟาฟ่ามาตั้งแต่ 2,000 ปี  ก่อนคริสตกาล  โดยใช้เป็นพืชเลี้ยงสัตว์และใช้ใบมาตากแห้งชงเป็นชาบริโภค  จึงถูกขนานนามให้เป็น AL-FAS-FAH-SHA
    หรือ  “ราชาแห่งอาหารทั้งมวล”  ประโยชน์จากต้นอัลฟาฟ่า  มักได้จากส่วนใบและลำต้น  ซึ่งได้ถูกนำไปใช้สำหรับบำบัดอาการปวดข้อและอักเสบต่าง ๆ เช่น ปวดข้อ (ARTHRITIS)  ไปจนกระทั่งถึงความผิดปกติในระบบทางเดินอาหารและเซลล์ในตับถูกทำลาย  นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า  อัลฟาฟ่า ยังสามารถช่วยให้เลือดสะอาดขึ้น
                    อัลฟาฟ่า เป็นพืชที่ให้กรดอะมิโนจำเป็ฯครบทั้ง 8 ชนิด  ซึ่งได้แก่ กรดอะมิโนไอโซลิวซีน  ลิวซีน  ไลซีน  เมไธโอนีน  พีนิลอะลานีน  เทรโอนีน  ทริปโตฟาน  และวาลีน  และพบว่ากรดอะมิโนเหล่านี้ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างเองได้  แต่จำเป็นต้องมีไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในการสร้างเนื้อเยื่อต่าง ๆ  นอกจากนี้ในอัลฟาฟ่ายังอุดมไปด้วยวิตามินเอ บี6 ดี  อี เค เกลือแร่ฟอสฟอรัส  โปแตสเซียม และแคลเซียม
    คลอโรฟิลล์ (CHLOROPHYLL)  เกือบ 100 ปี แห่งการค้นพบ
                    คลอโรฟิลล์  คือสารประกอบที่ทำให้พืชมีสีเขียวและทำหน้าที่หลัก คือ สังเคราะห์แสง (Photosynthesis)  โดยการเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และแร่ธาตุต่าง ๆ จากดินให้กลายเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช  รวมทั้งให้ก๊าซออกซิเจนที่สำคัญอย่างยิ่งในการดำรงชีวิตของมนุษย์และสัตว์  คลอโรฟิลล์ธรรมชาติมีหลายชนิด  บางชนิดสังเคราะห์แสงได้ในที่ที่มีแสงแดดเท่านั้น  แต่บางชนิดสังเคราะห์แสงได้แม้ในที่ไม่มีแสง  เช่น ในร่างกายของคน  จึงมีการค้นคว้าเกี่ยวกับการทำงาน หรือปฏิกิริยาของคลอโรฟิลล์ต่อคน  พบว่า  คลอโรฟิลล์ที่อยู่ในเซลล์ของพืชทั่วไปจะถูกปกป้องและปิดกั้นด้วยผนังหรือเยื่อหุ้มเซลล์อีกทีหนึ่ง  ทำให้ระบบย่อยอาหารปกติของร่างกายเราไม่สามารถบดย่อย  เพื่อให้ได้สารคลอโรฟิลล์เพียงพอกับความต้องการของร่างกายได้  ถึงแม้ว่าเราจะบริโภคผักใบเขียวเป็นจำนวนมากอย่างไรในแต่ละวันก็ตาม  อีกทั้งคลอโรฟิลล์โดยตัวมันเองละลายน้ำไม่ได้  จะละลายได้ในไขมัน หรือในบางรูปของแอลกอฮอล์เท่านั้น   แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน  เราสามารถสกัดเอาเฉพาะสารคลอโรฟิลล์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์และบริสุทธิ์  โดยปราศจากการสูญเสียคุณค่าทางอาหารตามธรรมชาติ  ร่างกายจึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีอย่างเต็มที่  และเป็นคลอโรฟิลล์ชนิดละลายน้ำได้  จึงดูดซึมได้ทันทีในกระเพาะอาหาร  ในกรณีที่ร่างกายใช้ไม่หมด  จะถูกขับทิ้งไปทางระบบขับถ่าย ไม่สะสมไว้ในร่างกาย  ผิดกับคลอโรฟิลล์ชนิดที่ละลายในไขมัน  จะไม่ถูกดูดซึมที่กระเพาะอาหาร  แต่จะย่อยและดูดซึมที่ลำไส้เล็ก  คลอโรฟิลล์ชนิดนี้เมื่อร่างกายใช้ไม่หมด จะถูกส่งต่อไปสะสมไว้ที่ตับ (liver)  ในระยะเวลาหนึ่ง  อาจเกิดอันตรายต่อตับได้  องค์การอาหารและยาสหรัฐจึงให้การรับรองเฉพาะคลอโรฟิลล์ที่ละลายน้ำได้ (WATER SOLUBLE CHLOROPHYLL)  เท่านั้น  ว่าปลอดภัยต่อการบริโภคของคน  ถึงแม้ว่าจะบริโภคในปริมาณมากต่อวัน ก็ไม่เกิดผลเสียต่อร่างกายแต่อย่างใด  ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นก็มีเพียงอาการท้องเสียอย่างเบาบางกรณีเท่านั้น             
       ด้วยสูตรโครงสร้างของโมเลกุลที่ใกล้เคียงกับโมเลกุลของเม็ดเลือดแดง  ต่างกันเฉาะตรงกลางที่คลอโรฟิลล์มีแมกนีเซียม(Mg) และเม็ดเลือดแดงมีเหล็ก (Fe)  จึงทำให้สีของมันต่างกัน  คือ คลอโรฟิลล์มีสีเขียว แต่เม็ดเลือดมีสีแดง  จากจุดนี้เองที่ทำให้คลอโรฟิลล์ถูกเรียกว่า “เลือดของพืช” (Blood of Plant) ผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์มากมาย  สรุปตรงกันว่า  คลอโรฟิลล์สามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงได้  จนทำให้ผู้วิจัยได้รับรางวัลโนเบล (Nobel Prize) ไปแล้วถึง 2 ท่านด้วยกัน  คือ ดร.ริชาร์ด วินสเตตเตอร์ (DR.RICHARD WINSTATER)  ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยออสเตรีย ในปี ค.ศ.1915  และ ดร.ฮันส์ ฟิชเชอร์ (DR.HANS  FISHER M.D.)  นายแพทย์ชาวเยอรมัน ในปีค.ศ. 1930   ผู้ซึ่งค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างเม็ดเลือดแดงและคลอโรฟิลล์
                    ในบางเงื่อนไขสามารถแทนที่ศูนย์กลางของคลอโรฟิลล์ด้วยเหล็ก (Fe)  จากอาหารธรรมชาติบางประเภท  ทำให้อัตราการเพิ่มของเม็ดเลือดแดงดีขึ้น  ทั้งนี้แมกนีเซียม (Mg) ที่หลุดออกไปจากศูนย์กลางโมเลกุลของคลอโรฟิลล์  ก็จะทำหน้าที่พาแคลเซียม (Ca) 2Ca-Mg  เข้าไปอุดรูพรุนกระดูกต่าง ๆ ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้นในโพรงกระดูกซึ่งมีไขกระดูก (Bone Marrow) อยู่  ก็จะมีการสร้างเม็ดเลือดแดงได้ในปริมาณที่มากขึ้น (หน้าที่ของไขกระดูก คือสร้างเม็ดเลือดแดงและปรับระดับความเป็นด่างในกระแสเลือด)  จากากรทำวิจัยขององค์การอาหารและยาสหรัฐกับผู้ป่วยแผลเปิด  จำนวน 3,600 ราย  พบว่า คลอโรฟิลล์ช่วยกระตุ้นให้มีการสร้างเซลล์ใหม่ให้เร็วขึ้น  ทำให้แผลหายเร็วกว่าปกติ 25% ขึ้นไปและรอยแผลเป็นลดขนาดลงกว่า 50% หรือมากกว่า  จากกรณีนี้  จึงมีการวิจัยต่อเกี่ยวกับการรักษาอาการเจ็บป่วยภายในร่างกายอันเป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ขึ้น  พบว่าผู้ป่วยทั้ง 1,227 ราย  กลิ่นภายในหายหมดหลังจากใช้คลอโรฟิลล์ผ่านไป 2 สัปดาห์  จึงให้การรับรองว่าเป็นยาดับกลิ่นภายใน   สามารถซื้อขายได้ตามร้านขายยาและอาหารเสริม  ตั้งแต่ วันที่ 11 พฤษภาคม 1990
     


    คลอโรฟิลล์    ช่วยคุณได้อย่างไร
        จากประสบการณ์ของผู้ใช้-ผู้บริโภคทั่วโลก  ได้ข้อสรุปที่น่าสนใจของคลอโรฟิลล์  ดังนี้
       * ช่วยให้เลือดสะอาด
       * ช่วยให้ตับสะอาด  เสริมการรักษาในผู่ป่วยตับอักเสบ
       * เสริมธาตุเหล็กให้ร่างกาย
       * ทำให้สดชื่น หายเหนื่อยจาการอ่อนเพลีย
       * ลดความดันโลหิต  ลดปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบตัน
       * ทำให้ระดับน้ำตาลลดลงสำหรับคนไข้โรคเบาหวาน
       * บรรเทาอาการโรคภูมิแพ้  แพ้อากาศ โรคหืด ผื่นลมพิษ  ค่อย ๆ ทุเลาจนหายได้
       * ขับกรดจากข้อต่าง ๆ ทำให้อาการปวดข้อ ปวดเมื่อยตามตัวทุเลาและหายได้
       * ขับสารพิษออกจากร่างกาย  สารตกค้างของยาปฏิชีวนะ  สารเคมีตกค้างในอาหาร  ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานดี       สุขภาพแข็งแรง สดชื่นขึ้น
       * ป้องกันและระงับการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและช่วยเพิ่มเซลล์เม็ดเลือดแดง
       * แก้ปัญหาคนท้องผูก  ขับถ่ายดีขึ้น  ริดสีดวงทวารทุเลาและหายได้
       * ดับกลิ่นตัว  กลิ่นปาก  กลิ่นเท้า  โดยเฉพาะผู้ชายที่ใส่ถุงเท้าแล้วเหม็น
       * แก้ปัญหาอาการชา  บวมและส้นเลือดขอดให้ทุเลาลงได้
       * ชะลอความแก่  ทำให้มีอายุยืน
       * ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย  ใช้รักษาแผลอักเสบ  แผลเปื่อย  แผลเรื้อรัง  แผลถลอก  แผลไฟ     
         ไหม้ เหงือกอักเสบ  แผลในปาก คออักเสบ  โดยใช้ผงคลอโรฟิลล์โรยบนแผล  จะทำให้แผลหายเร็ว
       * บรรเทาอาการปวดศีรษะทั่วไป  ปวดศีรษะไมเกรน
       * ช่วยแก้ปัญหาเรื่องโรคกระเพาะ  ลำไส้อักเสบ  ช่วยสมานแผล
       * แก้ปัญหาเรื่องสิว ฝ้า ปวดประจำเดือน  ประจำเดือนมาไม่ปกติ
       * ควบคุมน้ำหนัก  ลดน้ำหนัก  คลอเรสเตอรอลในเลือด
       * มีผลต่อสุขภาพตาในคนที่เป็นต้อกระจก  ทำให้การมองเห็นดีขึ้น
       * มีสารอาหารบำรุงเส้นผม  ทำให้เส้นผมหงอกดำขึ้น  ช่วยลดอาการผมร่วง ลดอาการเมาค้าง
       * ได้ทดลองกับผู้ป่วยโรคเอดส์  เมื่อรับประทานคลอโรฟิลล์เข้าไปแล้ว ทำให้ร่างกายของผู้ป่วยมีระดับภูมิคุ้มกันดี
          ขึ้นเป็นลำดับ 

 
ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :
 


 

 sunclaraivy (ซันคลาร่าไอวี่)yy  

จำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพสกัดจากพืชธรรมชาติยินดีให้คำแนะนำและปรึกษา  สนใจติดต่อ

โทร.089-9207483  E-Mail : sumarpornp@gmail.com